เริ่มตั้งแต่การลำดับทายาทโดยธรรม ผู้มีสิทธิรับมรดกตามกฎหมาย จัดเตรียมเอกสาร พยานบุคคล ทนายทำคำร้องขอตั้งผู้จัดการมรดกยื่นต่อศาล เมื่อได้รับเอกสารครบ ทนายจัดทำคำร้องไม่เกิน 1 สัปดาห์ ยื่นต่อศาล.
เมื่อยื่นคำร้องต่อศาลแล้ว กำหนดวันนัดไต่สวนคำร้องขอตั้งผู้จัดการมรดก ใช้ระยะเวลาดำเนินการประมาณ 45 วัน ถึง 60 วัน.
ในการยื่นคำร้องต่อศาล ต้องใช้เอกสารเพื่อประกอบการพิจารณา เช่น สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน ทะเบียนบ้าน ใบมรณบัตร ทะเบียนสมรส ใบเปลี่ยนชื่อตัว-เปลี่ยนชื่อสกุล หนังสือให้ความยินยอมของทายาท พินัยกรรม (ถ้ามี) เอกสารเกี่ยวกับทรัพย์สินของเจ้ามรดก เช่น สำเนาโฉนดที่ดิน เล่มรายการจดทะเบียนรถ สมุดบัญชีเงินฝากธนาคาร สลากออมทรัพย์ ฯลฯ
ในการยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งตั้งผู้จัดมรดกถือเป็นคดีไม่มีข้อพิพาท .
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 4 จัตวา คำร้องขอแต่งตั้งผู้จัดการมรดก ให้เสนอต่อศาลที่เจ้ามรดกมีภูมิลำเนาอยู่ในเขตศาลในขณะถึงแก่ความตาย.
ในการยื่นคำร้องต่อศาล ต้องใช้เอกสารเพื่อประกอบการพิจารณา เช่น สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน ทะเบียนบ้าน ใบมรณบัตร ทะเบียนสมรส ใบเปลี่ยนชื่อตัว-เปลี่ยนชื่อสกุล หนังสือให้ความยินยอมของทายาท พินัยกรรม (ถ้ามี) เอกสารเกี่ยวกับทรัพย์สินของเจ้ามรดก เช่น สำเนาโฉนดที่ดิน เล่มรายการจดทะเบียนรถ สมุดบัญชีเงินฝากธนาคาร สลากออมทรัพย์ ฯลฯ
ดังนั้น ในการยื่นคำร้องขอแต่งตั้งผู้จัดการมรดกจึงต้องยื่นคำร้องต่อศาลที่เจ้ามรดกมีภูมิลำเนาอยู่ในเขตศาลในขณะถึงแก่ความตายเท่านั้น
แต่ถ้าขณะเจ้ามรดกถึงแก่ความตาย เจ้ามรดกไม่มีภูมิลำเนาอยู่ในราชอาญาจักรการยื่นคำร้องให้ยื่นต่อศาลที่ทรัพย์มรดกอยู่ในเขตศาลนั้น
เมื่อบุคคลใดตายมรดกของบุคคลนั้นย่อมตกทอดแก่ทายาทโดยธรรม หรือ ผู้รับพินัยกรรม .
หากเจ้ามรดกมีทรัพย์สินซึ่งมีทะเบียน เช่น โฉนดที่ดิน อาวุธปืนมีทะเบียน รถยนต์ เงินฝากในบัญชีธนาคาร สลากออมทรัพย์ ฯลฯ ทรัพย์สินเหล่านี้ เจ้าพนักงานจะไม่ดำเนินการเปลี่ยนแปลงทางทะเบียนเกี่ยวกับทรัพย์สินหากไม่มีคำสั่งตั้งผู้จัดการตามกฎหมายเสียก่อน
บุคคลที่จะร้องขอศาลให้แต่งตั้งเป็นผู้จัดการมรดกต้องเป็นทายาทโดยธรรมที่มีสิทธิรับมรดก ผู้จัดการมรดกตามพินัยกรรม หรือเป็นผู้มีส่วนได้เสียในกองมรดกของผู้ตาย ต้องบรรลุนิติภาวะแล้ว ไม่เป็นบุคคลวิกลจริต ไม่เป็นบุคคลซึ่งศาลสั่งให้เป็นผู้เสมือนไร้ความสามารถ ไม่เป็นบุคคลซึ่งศาลสั่งให้เป็นคนล้มละลาย (ปพพ. มาตรา 1718) .
ผู้จัดการมรดก มีทำหน้าที่รวบรวม และแบ่งปันทรัพย์สินซึ่งเป็นมรดกของผู้ตายให้ทายาทผู้มีสิทธิรับมรดก หรือผู้รับพินัยกรรม ตลอดจนชำระหนี้สินของเจ้ามรดกแก่เจ้าหนี้.
1. หน้าที่ผู้จัดการมรดกเริ่มนับตั้งแต่วันที่ได้ฟังคำสั่งศาลแต่งตั้งให้เป็นผู้จัดการมรดก (มาตรา 1716).
2. ผู้จัดการมรดกต้องจัดทำบัญชีทรัพย์มรดกภายใน 15 วัน นับแต่วันที่เริ่มหน้าที่ผู้จัดการมรดก (มาตรา 1728).
3. ผู้จัดการมรดกต้องจัดทำบัญชีทรัพย์มรดกให้แล้วเสร็จภายใน 1 เดือน บัญชีทรัพย์มรดกต้องมีพยาน 2 คน ซึ่งพยานต้องเป็นผู้มีส่วนได้เสียในกองมรดกนั้นด้วย (มาตรา 1729).
4. ถ้าผู้จัดการมรดกมิได้จัดทำบัญชีทรัพย์มรดกให้เสร็จภายในกำหนดเวลาตามแบบที่กำหนดไว้ หรือถ้าบัญชีนั้นไม่เป็นที่พอใจแก่ศาล เพราะความประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรง หรือการทุจริต หรือความไม่สามารถอันเห็นประจักษ์ของผู้จัดการมรดก ศาลจะถอนผู้จัดการมรดกเสียก็ได้ (มาตรา 1731).
5. ผู้จัดการมรดกต้องจัดการตามหน้าที่ ทำรายงานแสดงบัญชีการจัดการ และแบ่งปันมรดกให้แล้วเสร็จภายในหนึ่งปี นับแต่วันฟังคำสั่งศาล หรือถือว่าได้ฟังคำสั่งศาลแล้ว เว้นแต่ผู้ทำพินัยกรรม ทายาทโดยจำนวนข้างมาก หรือศาลจะกำหนดเวลาให้ไว้เป็นอย่างอื่น (มาตรา 1732).
6. ผู้จัดการมรดกไม่มีสิทธิที่จะได้รับบำเหน็จจากกองมรดก เว้นแต่พินัยกรรม หรือทายาทจำนวนข้างมากจะได้กำหนดให้ไว้ (มาตรา 1721).
7. ผู้จัดการมรดกจะทำนิติกรรมใดๆ ซึ่งตนมีส่วนได้เสียเป็นปฏิปักษ์ต่อกองมรดกไม่ได้ เว้นแต่พินัยกรรมจะได้อนุญาตไว้ หรือได้รับอนุญาตจากศาล (มาตรา 1722).
8. ผู้จัดการมรดกต้องจัดการมรดกด้วยตนเอง หากทำโดยตัวแทนจะทำได้ตามอำนาจที่ให้ไว้โดยชัดแจ้ง หรือโดยปริยายในพินัยกรรม หรือโดยคำสั่งศาล หรือเพื่อประโยชน์แก่กองมรดก (มาตรา 1723).
9. ถ้าผู้จัดการมรดกทำนิติกรรมกับบุคคลภายนอกโดยเห็นแก่ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใด อันบุคคลภายนอกได้ให้ หรือได้ให้คำมั่นว่าจะให้เป็นส่วนตัว นิติกรรมนั้นไม่ผูกพันทายาท เว้นแต่ทายาทจะได้ยินยอมด้วย(มาตรา 1724).
10. ทายาทต้องบอกทรัพย์สินมรดก และหนี้สินของผู้ตายตามที่ตนรู้ทั้งหมดแก่ผู้จัดการมรดก (มาตรา 1735).
Copyright © 2022 : LawyerPhatwarin.com